ขมิ้นเครือ ๔

Combretum acuminatum Roxb.

ชื่ออื่น ๆ
สะตานก (มลายู-นราธิวาส)
ไม้เถาเนื้อแข็ง ใบเรียงตรงข้าม รูปไข่ถึงรูปรีแกมรูปขอบขนาน ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกตามง่ามใบและปลายกิ่ง ดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศร่วมต้นและร่วมช่อ ดอกสีเหลืองอ่อน ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปกระสวย มีสันแข็ง ๔ สัน

ขมิ้นเครือชนิดนี้เป็นไม้เถาเนื้อแข็งขนาดใหญ่ กิ่งอ่อนมีขนและเกล็ดสีน้ำตาลแดง กิ่งแก่เกลี้ยง เปลือกเรียบ สีเทา

 ใบเดี่ยว เรียงตรงข้ามหรือเยื้องกันเล็กน้อย รูปไข่ รูปขอบขนาน หรือรูปรีแกมรูปขอบขนาน กว้าง ๗-๙.๕ ซม. ยาว ๑๘-๒๒ ซม. ปลายแหลม โคนมน ขอบเรียบ แผ่นใบบาง ด้านบนสีเขียวเข้มเป็นมัน ด้านล่างสีเขียวอ่อน ใบอ่อนมีขนเล็กน้อย เส้นแขนงใบข้างละ ๘-๑๒ เส้น เส้นใบย่อยแบบเส้นขั้นบันได เห็นชัดทางด้านล่าง ก้านใบยาว ๐.๕-๑ ซม. สีน้ำตาลดำเมื่อแห้ง

 ดอกสมบูรณ์เพศและดอกแยกเพศร่วมต้นและร่วมช่อ ช่อดอกแบบช่อแยกแขนง ออกที่ปลายกิ่งและแบบช่อเชิงลดออกตามง่ามใบ ยาว ๕-๑๐ ซม. มีขนสีน้ำตาลแดงทั่วไป ใบประดับเล็ก รูปเรียวแหลม ร่วงง่าย ดอกยาวประมาณ ๒ มม. ออกเป็นกระจุก ๒-๔ ดอก กลีบเลี้ยงโคนติดกันเป็นรูปถ้วย ปลายแยกเป็นแฉกแหลม ๔ แฉก มีขนแน่นทั้ง ๒ ด้าน กลีบดอก ๔ กลีบ รูปไข่กลับ สีเหลืองอ่อน ผิวเกลี้ยง ปลายกลีบยื่นพ้นกลีบเลี้ยง ร่วงง่าย เกสรเพศผู้ ๘ อัน เรียงเป็น ๒ วง รังไข่อยู่ใต้วงกลีบ มี ๑ ช่อง มีออวุล ๔ เม็ด โคนก้านยอดเกสรเพศเมียอวบ ปลายเรียวแหลม

 ผลแบบผลผนังชั้นในแข็ง รูปกระสวย กว้าง ๒-๒.๕ ซม. ยาว ๓.๕-๔.๕ ซม. มีสันแข็ง ๔ สัน ไม่มีก้านผล

 ขมิ้นเครือชนิดนี้มีเขตการกระจายพันธุ์ในประเทศไทย ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออกเฉียงใต้ และภาคใต้ ขึ้นตามป่าเบญจพรรณชื้นและป่าดิบแล้ง ที่สูงตั้งแต่ระดับน้ำทะเลถึงประมาณ ๒๐๐ ม. ออกดอกและเป็นผลระหว่างเดือนเมษายนถึงธันวาคม ในต่างประเทศพบที่อินเดีย ศรีลังกา พม่า ภูมิภาคอินโดจีน และภูมิภาคมาเลเซีย

 ใบใช้ตำเป็นยาพอกฝีและแผลน้ำร้อนลวก น้ำต้มจากใบใช้ดื่มเป็นยาขับพยาธิ.

ชื่อหลักหรือชื่อทางการ
ขมิ้นเครือ ๔
ชื่อวิทยาศาสตร์
Combretum acuminatum Roxb.
ชื่อสกุล
Combretum
คำระบุชนิด
acuminatum
ชื่อผู้ตั้งพรรณพืช
- Roxburgh, William
ช่วงเวลาเกี่ยวกับผู้ตั้งพรรณพืช
- (1751-1815)
ชื่ออื่น ๆ
สะตานก (มลายู-นราธิวาส)
ผู้เขียนคำอธิบาย
นางนัยนา วราอัศวปติ และ ดร.จำลอง เพ็งคล้าย